Community Resources

icon picker
Repair Café Manual

คู่มือการจัดตั้ง Repair Café ฉบับภาษาไทย (V1.0.0)

📢 ข้อควรทราบ
เราขอแนะนำให้คุณเปิดอ่านบนเดสก์ท็อป 💻 เพื่อประสบการณ์การอ่านที่ดี แต่อ่านบนมือถือก็สามารถทำได้เหมือนกัน📱
โปรดอ่าน เกี่ยวกับคู่มือนี้
คู่มือนี้เรียบเรียงขึ้นมาจากคู่มือหลักของ ซึ่งได้อนุญาตให้แปลและเรียบเรียงเป็นภาษาไทย พร้อมใส่เนื้อหาเพิ่มเติมจากต้นฉบับที่มาจากการถอดบทเรียนโครงการนำร่องจัด Repair Café ในไทยของ เป็นเวลาครึ่งปี ผู้อ่านสามารถดูรายละเอียดเกี่ยวกับการจัดทำคู่มือนี้ได้ใน
ตามธรรมเนียม Repair Café จะต้องไม่เก็บค่าเข้าหรือค่าซ่อมจากผู้เข้าร่วม ยกเว้นตามเงื่อนไข (อ่านเพิ่มเติมใน
@การหาทุนสนับสนุน
)

1. จดหมายถึงผู้อ่าน 💌

2. รู้จัก Repair Café 👀

Repair Café คือกิจกรรมรายเดือนที่รวบรวมอาสาช่างซ่อมทั้งในและนอกพื้นที่ให้มาช่วยซ่อมและสอนวิธีซ่อมดูแลรักษาสิ่งของในชีวิตประจำวันให้กับผู้คนในชุมชน มีเป้าหมายเพื่อทำให้การซ่อมเป็นเรื่องง่ายที่ทุกคนทำได้ ชักชวนให้ผู้คนหันมาซ่อมของแทนการซื้อใหม่ และสร้างโอกาสที่คนในชุมชนที่มาจากหลากหลายพื้นเพจะได้มารู้จักและทำกิจกรรมร่วมกัน
Repair Café ให้ความสำคัญกับการเป็นพื้นที่เปิดให้ทุกคนสามารถเข้ามามีส่วนร่วมได้โดยปราศจากข้อกีดกันทางการเงินหรือเงื่อนไขใดๆ ที่กีดกันคนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง ดังนั้น Repair Café จึงเป็นกิจกรรมที่ไม่เก็บค่าใช้จ่ายกับผู้เข้าร่วม และสนับสนุนให้ผู้จัดมองหาการสนับสนุนจากชุมชนเพื่อให้สามารถจัดงานได้โดยไม่มีค่าใช้จ่าย เช่น การหาอาสาช่างซ่อมในพื้นที่ การร่วมงานกับองค์กร เช่น สถานศึกษาในพื้นที่เพื่อขอใช้สถานที่จัดงานแลกกับการจัดกิจกรรมที่นักเรียนสามารถเข้ามาเรียนรู้ได้ หรือการรวมกลุ่มกันในชุมชนเพื่อจัดงาน
นอกเหนือจากเงื่อนไขข้างต้น การจัด Repair Café สามารถปรับเปลี่ยนรูปแบบให้เหมาะสมกับบริบทของพื้นที่จัดงานได้ คู่มือการจัด Repair Café ฉบับนี้จึงรวบรวมแนวทาง คำแนะนำ และเทคนิคการจัด Repair Café ที่ผ่านการทดลองและปรับให้เหมาะบริบทของประเทศไทยเอาไว้ แต่หากผู้จัดต้องการคำแนะนำเพิ่มเติม ผู้จัดสามารถติดต่อพวกเราได้ทางลิงก์ด้านล่าง

2.1 ที่มาที่ไปของแนวคิดนี้

มาร์ทีน โพสต์มา (Martine Postma) ขณะที่ทำงานเป็นนักข่าวและนักการสื่อสารอยู่ ณ เมืองอัมสเตอร์ดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์ในปี 2009 (พ.ศ. 2552) ได้ริเริ่มแนวความคิดการจัดกิจกรรม Repair Café ขึ้น เธอมีความตั้งใจที่จะสร้างพื้นที่ในชุมชน ที่ที่ผู้คนทั่วประเทศเนเธอร์แลนด์นำข้าวของที่เสียมาซ่อมได้ด้วยตนเอง ซึ่งอาสาช่างซ่อมที่มีความรู้และความเชี่ยวชาญในการซ่อมแซมข้าวของประเภทต่างๆ ได้คอยให้คำแนะนำและการสนับสนุนควบคู่ไปด้วย
กิจกรรม Repair Café ครั้งแรกจัดขึ้นในวันที่ 18 ตุลาคม 2009 ณ โรงละครฟิญเฮาต์ (Fijnhout Theatre) เมืองอัมสเตอร์ดัม และได้รับความสนใจอย่างล้นหลาม ในบ่ายวันนั้น ผู้คนจากทั้งในเมืองอัมสเตอร์ดัมและข้างเคียงต่างหลั่งไหลนำข้าวของมาให้อาสาช่างซ่อมช่วยซ่อมแซมและเรียนรู้ทักษะการซ่อมไปในเวลาเดียวกัน ความสำเร็จในครั้งนี้ทำให้เราเห็นว่าผู้บริโภคยังคงมีความต้องการที่จะดูแลและซ่อมแซมข้าวของของตนเองให้มีอายุการใช้งานที่ยืนยาว Repair Café จึงเป็นกิจกรรมที่เกิดขึ้นมาเพื่อตอบโจทย์ความต้องการเหล่านี้
ในเวลาต่อมา มาร์ทีนได้ก่อตั้งองค์กร Repair Café International Foundation ขึ้นเพื่อเป็นหน่วยงานกลางที่สนับสนุนชุมชนในประเทศเนเธอร์แลนด์และประเทศอื่นๆ ทั่วโลกที่ต้องการจัด Repair Café ของตัวเองมา ซึ่งได้ดำเนินงานมาตั้งแต่ปี 2011 ถึงปัจจุบัน
Repair Café International Foundation มีเป้าหมายหลักในการดำเนินงาน 3 ประการ
ฟื้นฟูวัฒนธรรมการซ่อมที่หายไปจากสังคมสมัยใหม่
พัฒนา กระจายทักษะ และองค์ความรู้ด้านการซ่อม
สนับสนุนให้ชุมชนมีความเท่าเทียม ความเป็นหนึ่งเดียว และความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน ผ่านการจัดกิจกรรมที่เปิดกว้างให้ทุกคนที่อาจจะมีพื้นเพต่างกัน สามารถมีส่วนร่วมและพบปะกันและกันได้
ปัจจุบัน Repair Café International Foundation มีคณะกรรมการบริหารทั้งหมด 3 คน ประกอบด้วย
โจอันนา ฟาน เดอร์ ซันเดน (Joanna van der Zanden) นักวิจัยประเด็นด้านการซ่อม ดำรงตำแหน่งประธานคณะกรรมการ
มาร์ติน ลูซิงก์ (Martijn Leusink) ผู้จัด Repair Café เมืองอูเทรกต์ (Utrecht) ดำรงตำแหน่งเลขานุการ
บราม ชูร์แมน (Bram Schuurman) โค้ชธุรกิจ อดีตผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้าในครัวเรือน ดำรงตำแหน่งเหรัญญิก
ช่องทางการติดต่อ (ภาษาอังกฤษ) สำหรับผู้ที่ต้องการสนับสนุนในการจัด Repair Café
✉️

2.2 เหตุผลในการจัด Repair Café

ภายใต้ระบบเศรษฐกิจที่ใช้การบริโภคนิยมเป็นตัวชี้วัดการเติบโต สังคมของเรากำลังเสพติดกับการบริโภคสินค้าใหม่บ่อยขึ้นเรื่อยๆ ทันทีที่ของใช้ชำรุดนิดหน่อยหรือแค่มีรอยตำหนิ ไม่ว่าจะเป็นสินค้าขนาดใหญ่อย่างเครื่องใช้ไฟฟ้าหรือสินค้าชิ้นเล็กๆ เช่น เสื้อผ้าหรือตุ๊กตา เราเลือกที่จะซื้อของใหม่มาทดแทนและโยนของเก่าทิ้งไป
ปัจจุบันมีผู้คนเพียงหยิบมือ เช่น ผู้บริโภคกลุ่มเล็กๆ ช่างฝีมือ ผู้สูงอายุ หรือผู้ใช้แรงงานที่ยังคงเลือกการซ่อมแทนการซื้อใหม่ และนับวันบทบาทของผู้มีความสามารถในการซ่อมกำลังถูกลดทอนความสำคัญลงภายใต้ระบบเศรษฐกิจที่ทำทุกวิถีทางให้เราบริโภคเพิ่ม ส่งผลให้องค์ความรู้และทักษะในการซ่อมแซมค่อยๆ เลือนหายไปจากสังคม ซึ่งนับเป็นเรื่องที่น่าเสียดายเป็นอย่างยิ่ง เพราะสิ่งเหล่านี้เป็นองค์ประกอบสำคัญต่อการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมที่ตั้งอยู่บนพื้นฐานของความยั่งยืน
Repair Café จึงเป็นพื้นที่ที่ให้ความสำคัญกับผู้มีความสามารถในการซ่อมเหล่านี้ เราชวนพวกเขามาเป็นอาสาช่างซ่อม และชวนผู้คนในชุมชนให้เข้ามาร่วมเรียนรู้วิธีการซ่อม พร้อมกับลงมือซ่อมของประเภทต่างๆ ไปด้วยกัน ซึ่งการจัดกิจกรรมเช่นนี้นอกจากจะช่วยกระจายองค์ความรู้ด้านการซ่อมให้แพร่หลายแล้ว ยังช่วยให้เหล่าอาสาช่างซ่อมได้มีบทบาทในชุมชนมากยิ่งขึ้น
ในมุมของผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม การซ่อมแทนการซื้อใหม่ส่งผลให้ผู้บริโภคลดการทิ้งสิ่งของที่ยังมีอายุการใช้งานเหลืออยู่ ทั้งยังสร้างแรงกระเพื่อมไปถึงผู้ผลิตที่จำเป็นต้องลดการผลิตสินค้าใหม่ๆ ลง แนวปฏิบัตินี้จะช่วยลดการใช้พลังงาน ทรัพยากร และลดการปล่อยมลภาวะได้ในปริมาณมาก
นอกเหนือจากนี้ Repair Café อยากเห็นผู้บริโภคมีความสุขและได้ใช้ประโยชน์กับข้าวของที่มีอยู่ได้ยาวนานยิ่งขึ้น และที่สำคัญ เราอยากให้ผู้บริโภคเห็นว่า การซ่อมก็เป็นเรื่องที่ไม่ยากและสนุกได้เช่นกัน!

2.3 บทบาทของ Reviv Community

เริ่มต้นนำร่องจัดกิจกรรม Repair Café ในกรุงเทพฯ เป็นจำนวน 6 ครั้ง ตั้งแต่เดือนธันวาคม 2023 ถึงมิถุนายน 2024 เพื่อทดสอบความต้องการของผู้คนในบริบทสังคมไทย ซึ่งเราได้รับผลตอบรับจากทั้งชุมชน ผู้เข้าร่วม และสื่อมวลชนเป็นอย่างดีตลอดการดำเนินงาน
กลุ่ม Reviv Community จึงมีความตั้งใจในการขยายผลโครงการ เริ่มเมื่อต้นเดือนกันยายน 2024 เราได้เซ็น MOU อย่างเป็นทางการกับ Repair Café International Foundation (RCIF) ซึ่งเป็นองค์กรที่ดูแลและสนับสนุน Repair Café กว่า 3,000 แห่งทั่วโลก พวกเรา Reviv Community จะดำเนินการจัดตั้ง แห่งนี้เพื่อสนับสนุนผู้จัด Repair Café ในประเทศไทยผ่าน 4 กลไก
แปลคู่มือการจัด Repair Café เป็นภาษาไทย พร้อมปรับเนื้อหาให้เหมาะบริบทของประเทศไทยและเพิ่มเครื่องมือที่พัฒนาจากกิจกรรมนำร่องของเราเข้าไปด้วย
ทำหน้าที่เป็นกระบอกเสียงให้กับ Repair Café โดยการช่วยปักหมุด Repair Café ลงบนแผนที่ Repair Café บนหน้าเพจ และบนแผนที่กลางของ รวมไปถึงช่วยประชาสัมพันธ์ Repair Café ที่เกิดขึ้นในพื้นที่ต่างๆ ผ่านแพลตฟอร์มการสื่อสารของเรา
ให้คำปรึกษาผู้ที่สนใจจัด Repair Café ซึ่งสามารถติดต่อพวกเราโดยตรงได้ผ่านทาง (สำหรับผู้จัด Repair Café ในประเทศไทย เราแนะนำเป็นช่องทาง Discord ซึ่งจะสามารถพูดคุยกันได้อย่างสะดวก)
ทำหน้าที่รวบรวมและแชร์ข้อมูล Repair Café และข้อมูลการซ่อมที่เกิดขึ้นในประเทศไทยให้กับ
@Repair Café International Foundation (RCIF)
และองค์กรนานาชาติอื่นๆ เช่น เพื่อร่วมกันผลักดันนโยบายและวัฒนธรรมการซ่อมต่อไป

3. จัดตั้ง Repair Café 🖐️

ในขณะนี้ Repair Café กำลังเป็นที่สนใจ เกิดเป็นแรงขับเคลื่อนให้มี (ว่าที่) ผู้จัดงานจำนวนมากที่ต้องการจัดตั้ง Repair Café ตามย่านต่างๆ เราจึงพัฒนาคู่มือฉบับนี้เพื่อสานต่อความตั้งใจให้คุณเองก็สามารถรับหน้าที่เป็นผู้จัดได้ ซึ่งเราเรียบเรียงวิธีการจัดงานออกมาเป็นขั้นตอนที่ปฏิบัติตามได้จริง
ในคู่มือฉบับนี้ เราจะให้คำแนะนำตั้งแต่การหาสถานที่จัดงานที่เหมาะสม การหาอาสาช่างซ่อมให้เพียงพอ อุปกรณ์การซ่อมที่ต้องเตรียมไว้ แนวทางการประชาสัมพันธ์โครงการ การหาทุนสำหรับจัดงาน อีกทั้งแนวทางการประเมินความปลอดภัยและพัฒนารูปแบบงาน ทั้งหมดนี้เป็นปัจจัยที่จะทำให้ Repair Café ดำเนินไปได้อย่างราบรื่น ได้รับการพัฒนาอย่างสม่ำเสมอ นำไปสู่เป้าหมายคือเกิดการจัด Repair Café ในแต่ละท้องที่อย่างเป็นประจำ
ทั้งนี้ คุณคือผู้ที่รู้จักละแวกบ้านของคุณดีที่สุด ผู้จัดทุกคนสามารถปรับวิธีการที่เราเขียนไว้ในคู่มือให้กลายเป็นแนวทางที่เข้ากับบริบทในย่านของคุณได้เลย

3.1 การเลือกสถานที่จัด

การเลือกสถานที่จัด Repair Café มีปัจจัยหลักที่ผู้จัดที่ต้องคำนึงถึง ดังนี้
Nov-1-TOWN-Transition-Town-photo-1024x678.jpg
1. สถานที่ตั้ง
สถานที่ที่ผู้คนในย่านเข้าถึงได้สะดวก เช่น สำนักงานเขต/อำเภอ พื้นที่ส่วนกลางชุมชน พื้นที่ที่เข้าถึงได้ง่ายด้วยขนส่งสาธารณะ เพื่อลดการใช้รถยนต์ส่วนตัว อย่างไรก็ตาม สถานที่จัดควรมีพื้นที่สำหรับจอดรถได้ 2-3 คัน ในกรณีที่ผู้จัดรับซ่อมหรือตรวจสภาพสิ่งของขนาดใหญ่ เช่น เครื่องใช้ไฟฟ้าหรือเฟอร์นิเจอร์

white power strip on brown wooden floor
2. สิ่งอำนวยความสะดวกที่จำเป็น
Repair Café ใช้เวลาครั้งละ 4 ชั่วโมงและมักจัดขึ้นในช่วงเวลา 13:00-17:00 น. เพื่อความสะดวกของอาสาช่างซ่อมและผู้เข้าร่วม เราจึงแนะนำให้มองหาสถานที่ที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกดังนี้
พื้นที่ที่อากาศถ่ายเทได้ดี มีพัดลมหรือเครื่องปรับอากาศ โดยเฉพาะในช่วงที่อากาศร้อนเป็นพิเศษ
พื้นที่ที่มีแสงสว่างเพียงพอ หรือมีการจัดเตรียมโคมไฟให้โดยเฉพาะสำหรับสถานีซ่อมแต่ละสถานี เพื่อที่อาสาช่างซ่อมสามารถดำเนินงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัย
brown pencil on white printing paper
3. ขนาดและการจัดแบ่งพื้นที่
แนะนำสถานที่ให้มีพื้นที่ประมาณ 80 ตารางเมตรในการจัดกิจกรรม และให้แบ่งพื้นที่ออกเป็น 3 ประเภทการใช้งาน ได้แก่ จุดลงทะเบียน พื้นที่พักคอย และสถานีซ่อม
จุดลงทะเบียน — สำหรับต้อนรับและให้ข้อมูลผู้เข้าร่วม
ผู้เข้าร่วม:

👇 ตัวอย่างการจัดสถานที่ของ Repair Café Pilot ครั้งที่ 2 และ 5

2nd Repair Cafe-22.jpg
Repair Café #2
สถานที่จัด
ขนาดพื้นที่
60 ตารางเมตร (สถานีซ่อม 3 ฐาน) เล็กกว่าขนาดพื้นที่แนะนำ แต่สามารถปรับการใช้งานให้เหมาะสมได้
การเดินทางเข้าถึง
ใกล้สถานีรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน MRT ท่าพระ และมีที่จอดรถให้ 1-2 คัน
อ่านการจัดสถานที่
5th Repair Cafe-30.jpg
Repair Café #5
สถานที่จัด
อาคารอเนกประสงค์
ขนาดพื้นที่
200 ตารางเมตร (รองรับสถานีซ่อม 5-6 ฐาน) ใหญ่กว่าขนาดพื้นที่แนะนำ จึงขยายรูปแบบการใช้งาน
การเดินทางเข้าถึง
ใกล้สถานีรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน MRT สนามไชย
อ่านการจัดสถานที่

3.2 การวางแผนจัดงาน

ตารางด้านล่างแสดงแผนงานการจัดตั้ง Repair Café อย่างเป็นขั้นเป็นตอน แบ่งออกเป็นทั้งหมด 7 ระยะ โดยที่ช่วงตั้งไข่เป็นระยะพิเศษที่จะดำเนินเพียงครั้งแรกครั้งเดียวเพื่อจัดตั้งโครงการ ก่อนที่จะดำเนินแผนงานระยะที่ 1-6 ในแต่ละรอบเดือนที่จะจัด
Search
ช่วงตั้งไข่: เริ่มโครงการ 🐣
2-3 เดือนก่อนจัดงาน
ช่วงที่ 1: รวบรวมอาสาจัดงานและซ่อมของ ✊
1 เดือนก่อนจัดงาน
ช่วงที่ 2: สื่อสารกิจกรรมให้สาธารณะทราบ 📢
3 อาทิตย์ก่อนจัดงาน (ดำเนินงานต่อเนื่องจนถึงวันจัดงาน)
ช่วงที่ 3: จัดเตรียมอุปกรณ์ 🛒
2 อาทิตย์ก่อนจัดงาน
ช่วงที่ 4: ยืนยันรอบสุดท้ายกับอาสา เจ้าของสถานที่ และผู้สนับสนุนทุกฝ่าย ✅
1 อาทิตย์ก่อนจัดงาน
ช่วงที่ 5: จัดงานกิจกรรม ✨
1 วัน จนถึงตอนปิดงาน
ช่วงที่ 6: ขอบคุณและถอดบทเรียนจากงานในเดือนนั้น 🙏
ภายใน 1 อาทิตย์หลังจากจัดงาน
people sitting on chair in front of table while holding pens during daytime
ช่วงตั้งไข่: เริ่มโครงการ 🐣
ช่วงเวลา
2-3 เดือนก่อนจัดงาน
สิ่งที่ควรทำให้สำเร็จ
จัดตั้งคณะผู้จัดงานที่จะเป็นผู้ดำเนินและประสานงานทั้งหมด พร้อมทั้งเป็นตัวแทน Repair Café ที่จะจัดตั้งขึ้น
มีสถานที่ที่เหมาะสมสำหรับจัดงานเป็นประจำ
จัดประชุมระหว่างคณะผู้จัด เจ้าของสถานที่ และพาร์ทเนอร์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อกำหนดวันและเวลาที่จะจัดเป็นประจำและ (ถ้าจำเป็น) จัดหาแหล่งทุนเพื่อเตรียมงานในระยะแรกเริ่ม
สร้างพื้นที่ในสื่อโซเชียล เช่น เฟซบุ๊กเพจหรืออินสตาแกรม เพื่อเตรียมสื่อสารกิจกรรมในพื้นที่ของตน
ส่งข้อมูล Repair Café เข้าฐานข้อมูลของ ในหน้า ทางเราจะส่งข้อมูลต่อไปให้กับ International Repair Café Network (repaircafe.org) เพื่อเพิ่มสาขา Repair Café ของคุณเข้าไปในฐานข้อมูลทั่วโลกให้ (หรือจะทำด้วยตัวเองก็ได้ ตามแต่ความสะดวกใจ)
ติดต่อ ทาง เพื่อให้ช่วยกระจายข่าวสารกับเครือข่าย Repair Café และสื่อในไทย
☝️ หมายเหตุ
ระยะนี้ทำเพียงครั้งเดียว ไม่ต้องทำซ้ำทุกเดือน เพราะหลังจากนี้เราจะใช้สถานที่เดิมในการจัดงานต่อไปเรื่อยๆ จนกว่าจะมีเหตุให้ต้องย้าย
เจ้าของสถานที่จะเป็นหนึ่งในคณะผู้จัดงานหรือไม่ก็ได้ ความเหมาะสมของสถานที่สามารถอ่านคำแนะนำได้ที่
หากไม่เข้าใจส่วนใด แนะนำให้ติดต่อ Repair Community Thailand เพื่อขอความช่วยเหลือทาง Discord โดยตรง

3.3 รายละเอียดฐานกิจกรรม

ผู้จัดสามารถเชิญอาสาซึ่งเชี่ยวชาญการซ่อมสิ่งของและอุปกรณ์ประเภทต่างๆ มาร่วมใน Repair Café ได้โดยสำรวจจากความต้องการของคนในพื้นที่นั้นๆ แต่โดยทั่วไป Repair Café มักจะประกอบไปด้วยฐานกิจกรรมและสถานีซ่อมขั้นพื้นฐานที่ดำเนินการโดยอาสาช่างซ่อมผู้เชี่ยวชาญหยิบมือหนึ่ง บทนี้จะให้ข้อมูลว่าสถานีซ่อมแต่ละสถานีจะมีรูปแบบโดยคร่าวๆ เป็นอย่างไร รวมถึงอุปกรณ์ที่ต้องจัดเตรียมไว้ล่วงหน้า
5th Repair Cafe-7.jpg
✍️ โต๊ะลงทะเบียน
เปิดอ่าน
1st Repair Cafe-44.jpg
🍰 พื้นที่พักคอย
เปิดอ่าน
1st Repair Cafe-33.jpg
👕 สถานีซ่อมเสื้อผ้า
เปิดอ่าน
5th Repair Cafe-117.jpg
💻 สถานีซ่อมอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์
เปิดอ่าน
4th Repair Cafe-15.jpg
🌾 สถานีซ่อมเครื่องจักสาน
เปิดอ่าน
2nd Repair Cafe-13.jpg
✂️ สถานีลับของมีคม
เปิดอ่าน
blog_top-image_repaircafe.jpg
🪑 สถานีซ่อมเฟอร์นิเจอร์หรือชิ้นงานไม้
เปิดอ่าน
4th Repair Cafe-2.jpg
💄 สถานีซ่อมด้วยกาว
เปิดอ่าน
4th Repair Cafe-36.jpg
🚴 สถานีซ่อมจักรยาน
เปิดอ่าน

3.4 หาอาสาจัดงานและช่างซ่อม

อาสาช่างซ่อมเป็นหนึ่งในหัวใจหลักของทุกๆ Repair Café ในบทนี้เราจะมาแนะนำช่องทางการหาอาสาช่างซ่อม เริ่มจากกลุ่มคนใกล้ตัวไปจนถึงระดับองค์กร ซึ่งจะสามารถช่วยให้การหาอาสาช่างซ่อมสำหรับ Repair Café ของคุณเป็นไปอย่างราบรื่น
ขั้นตอนการดำเนินงานมี 4 ขั้นตอน
Search
1. รวบรวมข้อมูลที่เกี่ยวข้องเพื่อประกาศ
รวบรวมข้อมูลที่เกี่ยวข้อง เช่น รูปแบบและรายละเอียดงานที่จะเกิดขึ้น ขอบเขตความรับผิดชอบของอาสา คำชี้แจงเรื่องการเป็นอาสา และกฎการอยู่ร่วมกัน (house rules) ตัวอย่างเนื้อหา: วันที่จัด Repair Café: ___________ เวลาจัด Repair Café: ___________ สถานที่จัด Repair Café: ___________ บทบาทของอาสาช่างซ่อม คือ ผู้ที่มาร่วมให้ความรู้เรื่องการซ่อม พร้อมเรียนรู้ไปกับอาสาสมัครท่านอื่น เปิดรับตั้งแต่ทักษะเบื้องต้นไปถึงชำนาญ สามารถนำของมาซ่อมเองได้ฟรีเช่นกัน หมายเหตุ - เป็นงานอาสา ไม่ได้รับค่าตอบแทน - หากเป็นไปได้ สามารถนำอุปกรณ์การซ่อมของตัวเองมาร่วมงานได้ - หากท่านเป็นเจ้าของร้านซ่อม ระหว่างการเป็นอาสาสมัครในงานท่านสามารถใช้โอกาสนี้ในการประชาสัมพันธ์บริการการซ่อมของร้านตัวเองได้ กฎการอยู่ร่วมกัน: ใบลงทะเบียนและระเบียบการอยู่ร่วมกัน (สามารถดึงข้อมูลจากหน้าระเบียบการอยู่ร่วมกันไปใช้ได้)
2. สร้างแบบฟอร์มรับสมัครอาสาช่างซ่อม
รวบรวมรายชื่อบุคคลใกล้ตัว หรือ องค์กร ที่ประเมินว่าสามารถมาเข้าร่วมเป็นอาสาช่างซ่อมได้ บุคคลใกล้ตัว: เราทุกคนต่างมีเพือนที่ชอบซ่อมของต่างๆ คนรู้จักที่ชอบงาน DIY หรือช่างสมัครเล่นที่ซ่อมของในบ้านได้ในยามจำเป็น การตามหาอาสาสมัครจากคนใกล้ตัวจะสามารถทุ่นแรงคุณได้อย่างมาก เป็นไปได้ว่าคุณจะได้อาสาช่างซ่อมครบสำหรับทุกสถานีโดยไม่ต้องประกาศตามหาในช่องทางอื่นๆ ช่างฝีมือในชุมชน: เช่น ช่างไม้ ช่างเย็บผ้า ช่างเหล็ก หรือช่างงานหัตถกรรมอื่นๆ ซึ่งเป็นโอกาสดีที่ Repair Café จะเปิดโอกาสให้พวกเขาได้แสดงฝีมือ ประชาสัมพันธ์ร้านของพวกเขาให้คนในชุมชนได้รู้จัก รวมถึงเป็นที่ให้ช่างฝึกหัดได้เก็บเกี่ยวประสบการณ์ลงมือซ่อมของจริงๆ กลุ่มหรือองค์กร: เช่น กลุ่มอาสาซ่อมของเพื่อนำของไปบริจาค ร้านค้ามือสองเพื่อการกุศล ชมรมช่างฝีมือ หรือกลุ่มของผู้มีงานอดิเรกร่วมกัน เช่นชมรมปั่นจักรยาน กลุ่มช่างซ่อมเครื่องเสียงวินเทจ หรือกลุ่มผู้สนใจคอมพิวเตอร์ เป็นต้น ศูนย์ฝึกอาชีพ หรือโรงเรียนอาชีวะ: มักเป็นศูนย์รวมผู้เชี่ยวชาญเรื่องการซ่อม การร่วมมือกับองค์กรเหล่านี้นอกจากช่วยให้คุณสามารถหาอาสาช่างซ่อมได้ง่ายขึ้น ยังอาจนำไปสู่การสนับสนุนด้านอื่นๆ เช่น สถานที่จัดงาน อุปกรณ์ พร้อมเพิ่มความน่าเชื่อถือ ซึ่งทำให้การขอเงินสนับสนุนเป็นไปได้ง่ายขึ้น บุคคลทั่วไป: นอกเหนือจากบุคคลใกล้ตัวและองค์กรต่างๆ ยังมีผู้ที่สนใจเข้าร่วมเป็นอาสาช่างซ่อมอยู่มากมาย ซึ่งเราไม่อยากให้คุณพลาดโอกาสที่จะได้ร่วมมือกัน
3. เตรียมสื่อประชาสัมพันธ์ที่จะใช้ประกาศหาอาสาช่างซ่อม
เตรียมสื่อประชาสัมพันธ์ที่จะใช้ประกาศหาอาสาช่างซ่อมตามช่องทางที่คุณรวบรวมไว้ เช่น บุคคลใกล้ตัว: เตรียมข้อความที่ระบุรายละเอียดงานที่จะเกิดขึ้น หรือ ชวนเมื่อพบปะ ทั้งนี้ ควรกรอกข้อมูลบุคคลนั้นๆ ไว้ใน Google Form ที่คุณเตรียมไว้ เพื่อความสะดวกในการรวบรวมรายชื่อ ช่างฝีมือในชุมชน: คุณอาจเดินทางไปที่ร้านของช่างเพื่อชักชวนให้มาร่วมเป็นอาสา โดยคุณควรเน้นความเข้าใจเรื่องการเป็นงานอาสาที่ไม่มีค่าตอบแทน อย่างไรก็ตาม ช่างทุกคนสามารถใช้โอกาสนี้ประชาสัมพันธ์ร้านของตัวเองได้ กลุ่มหรือองค์กร: เตรียมสื่อประชาสัมพันธ์ที่เหมาะกับรูปแบบองค์กร เช่น โพสต์ประชาสัมพันธ์เพื่อแชร์ในเพจชมรมปั่นจักรยาน, โปสเตอร์สำหรับติดในชมรมช่างฝีมือ ศูนย์ฝึกอาชีพ หรือโรงเรียนอาชีวะ: เตรียมไฟล์สำหรับนำเสนอโครงการกับผู้อำนวยการ หรือผู้บริหารหน่วยงาน โดยควรอธิบายให้ชัดเจนเกี่ยวกับที่มาที่ไป ประโยชน์ของโครงการ และรูปแบบความช่วยเหลือที่ต้องการ เช่น อาสาช่างซ่อมสำหรับกิจกรรมใดบ้าง, ความอนุเคราะห์ขอสถานที่จัดงานในวันเวลาที่ต้องการ, อุปกรณ์ที่ต้องการ เป็นต้น บุคคลทั่วไป: ทำโพสต์ประกาศบนสื่อสังคมออนไลน์ ภายใต้ชื่อกลุ่มผู้จัด Repair Café ของคุณ (คุณสามารถติดต่อให้ Reviv ช่วยประชาสัมพันธ์ร่วมด้วยได้) หรือ โปสเตอร์สำหรับติดประกาศในพื้นที่ส่วนกลางชุมชน
4. สร้างกลุ่มรวบรวมอาสาช่างซ่อมที่จะมาร่วมงาน
เราแนะนำให้คุณใช้ไลน์รูปแบบกลุ่ม (LINE Group Chat) หรือช่องทางใดๆ ที่ทีมของคุณตกลงร่วมกัน เช่น Discord, Slack เพื่อรวมรวบอาสาช่างซ่อมและผู้จัดงานเข้ามาในพื้นที่เดียว โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้การสื่อสารเป็นไปอย่างครบถ้วน โดยเฉพาะกรณีที่อาสาช่างซ่อมมีคำถามหรือผู้จัดงานต้องการแจ้งข้อมูลเปลี่ยนแปลงใดๆ นอกจากนี้ยังมีอีกวัตถุประสงค์ คือ เพื่อสร้างสังคมของกลุ่มคนที่รักการซ่อมร่วมกันในชุมชน ซึ่งจะมีจำนวนมากขึ้นและแน่นแฟ้นขึ้นเมื่อเวลาผ่านไป ซึ่งการขยายกลุ่มผู้ที่สนใจเรื่องราวของการซ่อมนี้ นอกจากจะทำให้การจัดงานครั้งถัดๆ ไปเป็นไปอย่างราบรื่นยิ่งขึ้นแล้ว เมื่อทุกๆ กลุ่มในทุกๆ ย่าน สามารถรวบรวมและขยายกลุ่มคนที่รักการซ่อมออกไปมากเท่าไหร่ โอกาสการรวมกลุ่มผู้บริโภคเพื่อเรียกร้องสิทธิการซ่อม (Right to Repair) ให้เกิดขึ้นจริงในไทยก็มีมากขึ้นเท่านั้น
รวบรวมข้อมูลที่เกี่ยวข้อง เช่น รูปแบบและรายละเอียดงานที่จะเกิดขึ้น ขอบเขตความรับผิดชอบของอาสา คำชี้แจงเรื่องการเป็นอาสา และกฎการอยู่ร่วมกัน (house rules)
ตัวอย่างเนื้อหา:
วันที่จัด Repair Café: ___________
เวลาจัด Repair Café: ___________
สถานที่จัด Repair Café: ___________

บทบาทของอาสาช่างซ่อม คือ ผู้ที่มาร่วมให้ความรู้เรื่องการซ่อม พร้อมเรียนรู้ไปกับอาสาสมัครท่านอื่น เปิดรับตั้งแต่ทักษะเบื้องต้นไปถึงชำนาญ สามารถนำของมาซ่อมเองได้ฟรีเช่นกัน

หมายเหตุ
- เป็นงานอาสา ไม่ได้รับค่าตอบแทน
- หากเป็นไปได้ สามารถนำอุปกรณ์การซ่อมของตัวเองมาร่วมงานได้
- หากท่านเป็นเจ้าของร้านซ่อม ระหว่างการเป็นอาสาสมัครในงานท่านสามารถใช้โอกาสนี้ในการประชาสัมพันธ์บริการการซ่อมของร้านตัวเองได้

กฎการอยู่ร่วมกัน:
@ใบลงทะเบียนและระเบียบการอยู่ร่วมกัน
(สามารถดึงข้อมูลจากหน้าระเบียบการอยู่ร่วมกันไปใช้ได้)

3.5 จัดหาอุปกรณ์

เนื้อหาในบทก่อนหน้านี้ได้รวบรวมรายการสิ่งของจำนวนมากที่ต้องเตรียมเพื่อจัด Repair Café เนื้อหาในบทนี้จะนำเสนอวิธีการที่ช่วยให้คุณสามารถร่วมรวมของเหล่านั้น
การหยิบยืมจากคนรอบตัวหรือเพื่อนบ้าน เป็นสิ่งแรกที่ผู้จัดทุกคนสามารถทำได้
หาผู้สนับสนุนเครื่องมือจากร้านซ่อมในพื้นที่ บางครั้งร้านซ่อมในชุมชนของคุณอาจจะสนใจใน Repair Café แต่ไม่สามารถปลีกตัวจากงานประจำมาเป็นอาสาได้ เขาสามารถให้คุณยืมยืมเครื่องมือไปใช้จัดงาน และผู้จัดงานสามารถช่วยประชาสัมพันธ์ร้านซ่อมของเขาโดยใส่ชื่อและรายละเอียดของร้านไว้ในรายชื่อผู้สนับสนุน Repair Café ของคุณ
ขอให้อาสาช่างซ่อมพกเครื่องมือมาด้วย อาสาช่างซ่อมส่วนใหญ่มักจะมีเครื่องมือที่ใช้อยู่เป็นประจำ คุณสามารถสอบถามและขอให้เขานำเครื่องมือเหล่านั้นมาได้ แต่สิ่งหนึ่งที่ควรให้ความสำคัญคือความสะดวกของอาสา หากเครื่องมือมีขนาดใหญ่หรือหนัก คุณอาจจะต้องช่วยอาสาในการขนส่ง หรือหากเป็นของสิ้นเปลืองหรือสึกหรอได้ง่าย คุณควรถามความสมัครใจและตกลงเงื่อนไขกับอาสาให้ชัดเจนก่อน
ซื้อเมื่อจำเป็น สำหรับอุปกรณ์หรือของสิ้นเปลื่องที่ต้องใช้บ่อยใน Repair Café เช่น น้ำมันอเนกประสงค์ WD-40 เทปกาว กาว ค้อน หรืออุปกรณ์อื่นๆ คุณสามารถซื้อเก็บไว้ที่สถานที่จัดงาน Repair Café ได้เลยเช่นกัน

4. รายละเอียดอื่นๆ ที่สำคัญ 📂

red fire extinguisher on green wall
ความปลอดภัยในการจัดงาน
ความปลอดภัยต้องมาก่อนเสมอในการจัด Repair Café ทุกครั้ง เราแนะนำให้ผู้จัดและอาสาทุกคนปฏิบัติตามมาตรการรักษาความปลอดภัยเพื่อรักษาความปลอดภัยของผู้ที่เกี่ยวข้องทุกคน

🧹 การจัดเตรียมพื้นที่

จัดหาหรือเตรียมพื้นที่ให้ทั้งพื้นที่จัดงานและทุกสถานีซ่อมมีแสงสว่างที่เพียงพอ
เตรียมพื้นที่ทำงานที่มีขนาดเหมาะสมให้อาสาช่างซ่อม
รักษาความสะอาดของพื้นในบริเวณงาน หากมีของเหลวหรือสิ่งกีดขวางอยู่บนพื้น ผู้จัดควรรีบทำความสะอาดหรือจัดการโดยเร็วที่สุด
เตรียมปลั๊กพ่วงที่มีคุณภาพและสามารถรองรับการแสไฟที่เพียงพอต่อการใช้งานของสถานีซ่อม เราแนะนำปลั๊กพ่วงที่รองรับกระแสไฟ 3,500 วัตต์ขึ้นไป และมีเบรกเกอร์ตัดไฟทันทีเมื่อไฟเกิน ผู้จัดควรหลีกเลี่ยงปลั๊กพ่วงที่ไม่มีตรามอก. ไม่มีระบบกันไฟเกิน หรือปลั๊กพ่วงที่มีคุณภาพต่ำทุกกรณี
ระบุและเตรียมทางออกฉุกเฉิน เช่นทางหนีไฟ หรือทางเข้า-ออกที่กว้างและไม่มีสิ่งกีดขวาง
เตรียมชุดปฐมพยาบาลให้พร้อม
เตรียมหม้อแปลงกระแสไฟฟ้าสำหรับงานซ่อมเครื่องใช้ไฟฟ้า ผู้จัดสามารถปรึกษาอาสาช่างซ่อมเพื่อจัดหาหม้อแปลงกระแสไฟที่เหมาะสมได้

🧰 การจัดเตรียมเครื่องมือที่เหมาะสม

เตรียมเครื่องมือที่ใช้การซ่อมให้ครบถ้วนและพร้อมใช้งาน
เตรียมพื้นที่สำหรับจัดวางและจัดเก็บเครื่องมืออย่างเป็นระเบียบและปลอดภัย
เตรียมสวิตช์หรือปลั๊กพ่วงสำหรับเครื่องมือที่ใช้ความร้อน เพื่อให้สามารถปิดเครื่องมือได้ง่ายเมื่อไม่ใช้งาน

🛠️ แนวทางปฏิบัติระหว่างการซ่อม

ให้เวลากับการประเมินจุดที่ต้องซ่อม
ก่อนที่จะเริ่มถอดชิ้นส่วนต่างๆ ของอุปกรณ์ออกมา เราแนะนำให้อาสาเริ่มเช็คจุดที่ซ่อมได้ง่ายที่สุดก่อน วิธีการนี้นอกจากจะช่วยให้ลดโอกาสการเสียเวลาจากการซ่อมไม่ตรงจุดแล้ว ยังช่วยลดความเสี่ยงที่จะเกิดอันตรายหรือความเสียหายจากการถอดชิ้นส่วนที่อาจมีความซับซ้อนและอันตราย
เมื่อไม่แน่ใจ ให้หยุดมือก่อน
เมื่อไรก็ตามที่อาสาช่างซ่อมไม่แน่ใจวิธีการซ่อมหรือรู้สึกว่าขั้นตอนต่อไปอาจก่อให้เกิดความเสียหายกับของที่ซ่อมหรือเกิดอันตรายต่อตัวเองและคนรอบตัว เราแนะนำให้อาสาหยุดซ่อมและหาข้อมูลเพิ่มหรือปรึกษาแนวทางการซ่อมจากอาสาคนอื่น นี่เป็นโอกาสที่ดีที่อาสาและผู้เข้าร่วมจะได้เรียนรู้ร่วมกัน
ขอความช่วยเหลือ
เมื่อการซ่อมทำได้ยากหรือทำคนเดียวลำบาก เราแนะนำให้อาสาช่างซ่อมขอความช่วยเหลือจากอาสาหรือผู้เข้าร่วมคนอื่นๆ
หลีกเลี่ยงการซ่อมสิ่งของที่อาจจะเกิดอันตราย
เช็คระบบไฟก่อนซ่อมเสมอ
ก่อนเริ่มซ่อมเครื่องใช้ไฟฟ้า เราแนะนำให้ตรวจสอบกระแสไฟฟ้าที่ค้างอยู่ในเครื่อง หรือเช็คปลั๊กและข้อต่อสายไฟให้ดีก่อนเริ่มซ่อม เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดอัตรายจากกระแสไฟต่อทั้งผู้ซ่อม ผู้เข้าร่วม และของที่ซ่อม
เตรียมพื้นที่สำหรับการทดสอบอย่างปลอดภัย
หากต้องทดสอบของที่ซ่อมแล้ว เราแนะนำให้แบ่งพื้นที่บางส่วนที่ห่างจากสถานีซ่อมและผู้เข้าร่วมไว้สำหรับการทดสอบ
ใช้อุปกรณ์ป้องกันที่เหมาะสม
ผู้จัดควรเตรียมอุปกรณ์ป้องกันที่เหมาะสมหากต้องมีการใช้สารเคมีหรืออาจเกิดอันตรายจากการซ่อม เช่นถุงมือ แว่นตา หน้ากากอนามัย หรือผ้ากันเปื้อนไว้ให้

orange megaphone on orange wall
การประชาสัมพันธ์
ในการจัด Repair Café โดยเฉพาะเมื่อเป็นการจัดครั้งแรก การประชาสัมพันธ์เป็นเรื่องสำคัญมาก เพื่อให้มีผู้เข้าร่วมมากพอที่จะเป็นกำลังใจให้อาสาช่างซ่อมและผู้สนับสนุนโครงการ ซึ่งจะทำให้เป้าหมายในการจัด Repair Café อย่างต่อเนื่องเกิดขึ้นได้จริง
ทั้งนี้ ไม่มีวิธีการตายตัวสำหรับการประชาสัมพันธ์ ทุกอย่างขึ้นอยู่กับบริบทในแต่ละท้องที่ อย่างไรก็ตามเรามีคำแนะนำเบื้องต้นเกี่ยวกับการประชาสัมพันธ์ ดังนี้

กำหนดเป้าหมายในการจัด Repair Café และเลือกช่องทางการประชาสัมพันธ์

minimalist photography of open door
การตกแต่งพื้นที่
ผู้จัดสามารถใช้เทมเพลตโปสเตอร์ ที่ทาง Reviv Community และ Repair Café Foundation ได้เตรียมไว้ เช่นโปสเตอร์รายละเอียดงาน ป้ายบอกทาง หรือป้ายบอกสถานีซ่อม เป็นต้น คุณสามารถใส่รูปและปรับข้อความให้เหมาะสมกับบริบทของคุณได้ นอกจากนี้คุณยังสามารถเคลือบโปสเตอร์ที่พิมพ์ออกมาเพื่อให้สามารถนำกลับมาใช้ซ้ำได้ยาวนานยิ่งขึ้น
หากสถานที่จัดงานของคุณอยู่ในที่ที่หายาก เราแนะนำให้พิมพ์ป้ายลูกศรบอกทาง และนำไปติดไว้ตามจุดต่างๆ เพื่อให้ผู้เข้าร่วมสามารถหาสถานที่จัดงานของคุณได้ง่ายยิ่งขึ้น
1st Repair Cafe-28.jpg
6th Repair Cafe-82.jpg



4th Repair Cafe-50.jpg
2nd Repair Cafe-26.jpg




5th Repair Cafe-7.jpg
S__20873229.jpg


person running on concrete road
การรักษาความต่อเนื่อง
การเริ่มจัด Repair Café ใช้เวลาและพลังงานในการเตรียมงานอย่างมาก เราจึงไม่อยากให้กิจกรรมลงเพียงครั้งเดียว เราจึงขอเสนอแนวทางการทำงานเพื่อให้ผู้จัดสามารถจัดงานอย่างต่อเนื่องได้ง่ายขึ้น

1. ถอดบทเรียนและเรียนรู้จากการจัดงานแต่ละครั้ง

การจัดกิจกรรม Repair Café ไม่มีสูตรสำเร็จตายตัว ดังนั้นความสามารถในการปรับตัวให้เข้ากับความต้องการและบริบทของพื้นที่จึงเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่จะนำไปสู่ความสำเร็จของกิจกรรม เราแนะนำสองแนวทางหลังที่จะช่วยให้ทีมผู้จัดสามารถร่วมกันพัฒนาการจัดงานให้ดียิ่งขึ้น

สอบถามและเก็บความคิดเห็นและข้อเสนอแนะจากอาสาและผู้เข้าร่วม

ด้านล่างเป็นตัวอย่างคำถามที่เราใช้ในการเก็บข้อมูลตลอดการจัด Repair Café Pilot ทั้ง 6 ครั้ง ผู้จัดสามารถปรับเปลี่ยนคำถามตามความเหมาะสมได้

นัดหมายทีมจัดงานเพื่อร่วมกันถอดบทเรียนสำหรับนำไปปรับแผนการจัดงานครั้งต่อไป

หลังจากจบกิจกรรมแล้ว เราแนะนำให้ทีมผู้จัดนัดหมายเพื่อพูดคุยกันถึงกิจกรรมที่เพิ่งจัดไป ในกระบวนการคุย เราแนะนำให้ใช้ ที่จัดเตรียมไว้ให้ในการคุย
ผู้จัดสามารถเข้าไปดูตัวชี้วัดความสำเร็จในหน้าแรกของ Worksheet ชื่อว่า “1.Project Overview” แล้วประเมินว่ากิจกรรมครั้งที่ผ่านมาได้บรรลุเป้าหมายที่ตั้งใจไว้หรือไม่ และมีปัจจัยอะไรบ้างที่ทำให้บรรลุหรือไม่บรรลุเป้าหมาย
ในหน้า “8.ประเมินการจัดกิจกรรม (Reflection)” ใน Worksheet ทีมผู้จัดสามารถใช้เครื่องมือนี้ในการจัดระเบียบบทเรียน และวางแผนการทำงานในครั้งต่อไป ผู้จัดสามารถติดต่อทาง Reviv ได้หากต้องการความช่วยเหลือเพิ่มเติม

ตัวอย่างคำถามในแบบสอบถาม

2. แบ่งงานและวางระบบการทำงาน

brass quilt pen
การเก็บข้อมูลการซ่อม
ฐานข้อมูลรวบรวมข้อมูลการซ่อมของสิ่งของประเภทต่างๆ จะเป็นสื่งที่จำเป็นอย่างยิ่งในการผลักดันนโยบายสิทธิ์ในการซ่อม (Right-to-repair) ทั้งในระดับประเทศและในระดับโลก
อยู่ในระหว่างการวางแผน ออกแบบระบบการจัดเก็บข้อมูลที่ใช้ง่าย และสร้างฐานข้อมูลที่จะเชื่อมกับฐานข้อมูลกลางของ
@Repair Café International Foundation (RCIF)
และ ที่เป็นองค์กรตัวกลางทำหน้าที่รวบรวมข้อมูลการซ่อมจากองค์กรอิสระทั่วโลก
create-new

ณ ขณะนี้ ผู้จัดสามารถเริ่มบันทึกข้อมูลการซ่อมลงใน
@Event Worksheet Template
และเก็บ
@ใบลงทะเบียนและระเบียบการอยู่ร่วมกัน
ได้เลย ผู้จัดสะดวกสามารถกรอกข้อมูลการซ่อมจากใบลงทะเบียนลงใน Google Sheet เก็บไว้ได้เช่นกัน หลังจากเราพัฒนาฐานข้อมูลการซ่อมในประเทศไทยเสร็จเรียบร้อยแล้ว ทางเราจะขอติดต่อเข้าไปขอข้อมูลในภายหลัง

pink ceramic pig coin bank
การหาทุนสนับสนุน
การจัด Repair Café อาจต้องใช้ทุนก้อนเล็กๆ หรือมีเงินหมุนเวียนอยู่จำนวนหนึ่ง จำนวนทุนที่จำเป็นต้องใช้อาจแตกต่างไปในแต่ละพื้นที่และเงื่อนไขในการจัดงาน
ค่าใช้จ่ายในการจัดงานจะลดลงได้หากผู้จัดและอาสาสามารถเป็นอาสาทำงานโดยประโยชน์ด้านอื่นแทนการรับค่าตอบแทน เช่น ประสบการณ์ทำงานจริง การพบปะผู้คนจากหลายพื้นเพ พื้นที่ให้โปรโมทกิจการซ่อมของตัวเอง หรือพื้นที่ให้ได้พัฒนาทักษะที่ต้องการ
ผู้จัดยังสามารถลดค่าใช้จ่ายในการเช่นสถานที่ได้โดยการสรรหาผู้ที่ให้ใช้สถานที่จัดงานโดยไม่มีค่าใช้จ่าย เช่น องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่อาจจะมีอาคารหรือห้องที่คุณสามารถใช้ได้ เจ้าของกิจการเช่นร้านกาแฟที่มีพื้นที่ให้คุณจัดงานแลกกับการช่วยดึงลูกค้าให้ร้านของเขา หรือสถานศึกษาต่างๆ ที่มักจะสามารถแบ่งพื้นที่สำหรับจัดกิจกรรมให้คุณได้โดยแลกกับการเปิดโอกาสให้นักเรียนของเขาได้มีส่วนร่วมในกิจกรรมด้วย

5. Supporting materials & tools 🧰

เปิดดู
ชื่อรายการ
Link
เวอร์ชัน
อัปเดตล่าสุด
Event Worksheet Template
1.0.0
Oct 17, 2024
ใบลงทะเบียนและระเบียบการอยู่ร่วมกัน
2.0.0
Feb 1, 2024
No results from filter

Want to print your doc?
This is not the way.
Try clicking the ⋯ next to your doc name or using a keyboard shortcut (
CtrlP
) instead.